หอยนางรม
เป็นที่นิยมของคนรักอาหารทะเล เพราะมีรสชาติหวานอร่อยเฉพาะตัว เราคนไทยนิยมทานหอยนางรมสดคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดและยอดกระถินสด
เพราะเมื่อเคี้ยวเข้ากันแล้วจะเกิดรสหวานตามธรรมชาติขึ้น เพราะอาหารของเจ้าหอยนางรมคือแพลงก์ตอนพืชที่สะสมแป้งไว้ในตัว
หอยนางรมสุราษฎร์ และ หอยนางรมภูเก็ต (คนภูเก็ตจะเรียกว่า "หอยติบ") เป็นที่เชิดหน้าชูตาของหอยนางรมไทยในเรื่องขนาดใหญ่พิเศษ และทุกคนต่างรู้จักกันดี
หอยนางรม มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยวิตามิน A, วิตามิน B1, วิตามิน B2, วิตามิน C, แร่เหล็ก, ไอโอดีน, แคลเซียม, ทองแดง, แมกนีเซียม, ฟอสฟอรัส, แมงกานีส และสังกะสี (Zinc)
- วิตามิน B1 และ วิตามิน B2 ช่วยบำรุงประสาท กล้ามเนื้อ และหัวใจ นอกจากนี้วิตามินบียังช่วยซ่อมแซมระบบประสาทและทำหน้าที่เป็นสารสื่อประสาท และสามารถช่วยลดอาการชาตามนิ้วมือนิ้วเท้าได้
- แคลเซียม ช่วยในการเสริมสร้างกระดูก
- ทอรีน (Taurine) ที่ช่วยในการปรับการทำงานของระบบอวัยวะต่างๆ ในร่างกายให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพซึ่งรวมถึงการทำงานของต่อมหมวกไต ที่ทำหน้าที่ควบคุมฮอร์โมนเพศชาย
- สังกะสี (Zinc) ในการกระตุ้นระบบประสาทและสมอง ทำให้เกิดการ ตื่นตัวอย่างดีเยี่ยม
ส่วนใครที่กลัวว่าทานหอยนางรมแล้วจะอ้วนนั้น หอยนางรมใหญ่ 1 ตัว ให้พลังงาน 71 แคลอรี่ แต่ควรทานในปริมาณที่พอดี หรือไม่ควรเกิน 5 ตัวใหญ่ต่อมื้อ
วิธีการเลือกเนื้อหอยนางรมในกล่องพลาสติก
เนื้อหอยสดที่ดี น้ำที่แช่อยู่จะใส ถ้าขุ่นแสดงว่าเนื้อหอยแกะนั้นเก็บไว้นานแล้ว
วิธีดูหอยนางรมว่าสดไม่สด
หอยนางรมที่สด ฝาต้องปิดสนิท มีกลิ่นเค็มของน้ำทะเลแต่จะไม่คาว เมื่อเลือกหอยนางรมสดๆ มาแล้วให้ทำการล้างด้วยน้ำเย็น คลุมด้วยผ้าชุบน้ำ นำไปแช่ตู้เย็นจนกว่าจะนำออกมาใช้ ไม่ให้เคลื่อนย้ายบ่อยจะคงความสดได้เป็นสัปดาห์
วิธีแกะและรับประทานหอยนางรม
ให้หงายฝาด้านเรียบขึ้นด้านบน ก่อนจะกะเทาะให้ฝาเคลื่อนออกจากกัน พอแซะเนื้อออกมา ควรรับประทานภายใน 1 นาที
ซึ่งหอยที่ดีต้องมีซี่เหงือกสีเดียวกับลำตัว ดมเพื่อให้รู้ว่าสดมั้ย แล้วบีบมะนาวลงบนตัวหอยเพื่อเป็นการกระตุ้นให้หอยปล่อยน้ำเค็ม
ในตัวออกมาแทนเกลือ อมไว้ 5 วินาทีก่อน แล้วเคี้ยวก้านกระถินสดตามใป จะได้ความหวานและสดของหอย
เมนูหอยนางรมที่แนะนำ ได้แก่ ออส่วนหอยนางรม ยำหอยนางรม ไข่เจียวหอยนางรม หอยนางรมทรงเครื่อง เป็นต้น
ที่มาข้อมูล :
*posttoday
*food.mthai.com